หัวข้อ
- #เวลาออกอากาศ
- #ยอดขายเพิ่มขึ้น
- #쇼미 더 트렌드 (Show Me The Trend)
- #ทีวีโฮมช้อปปิ้ง
- #กลยุทธ์คอนเทนต์
สร้าง: 2024-07-11
สร้าง: 2024-07-11 09:45
รายการยอดนิยมของ GS Shop อย่าง ‘Show Me The Trend’ กำลังสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมด้วยการก้าวข้ามกรอบเดิมๆ ของทีวีโฮมช้อปปิ้ง และสร้างมาตรฐานใหม่ GS Retail ผู้ดำเนินงาน GS Shop ได้เริ่มออกอากาศรายการ ‘Show Me The Trend’ ทุกวันเสาร์ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา โดยเริ่มเวลา 21.35 น. และส่งผลให้ทั้งจำนวนครัวเรือนที่รับชมและยอดขายเพิ่มขึ้น
ภาพประกอบเพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับบทความ / ที่มา : GPT4o
เดิมที รายการออกอากาศตั้งแต่เวลา 22.30 น. ถึงตี 1 แต่ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ได้ปรับเวลาออกอากาศเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง การปรับเปลี่ยนนี้สืบเนื่องมาจากการที่ละครในวันหยุดสุดสัปดาห์เลื่อนเวลาออกอากาศจาก 22.00 น. เป็น 21.00 น. และจากแนวโน้มการรับชมทีวีในช่วงดึกที่ลดลงเนื่องจากการใช้งาน OTT เพิ่มขึ้น ผลลัพธ์ในไตรมาสที่ 2 แสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจครั้งนี้ประสบความสำเร็จ
ในช่วงไตรมาสที่ 2 (เมษายน-มิถุนายน) ที่ปรับเวลาออกอากาศแล้วนั้น จำนวนครัวเรือนที่รับชมรายการ ‘Show Me The Trend’ เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 และจำนวนลูกค้าที่ใช้ฟังก์ชั่น ‘Live Talk’ ส่งข้อความระหว่างรายการก็เพิ่มขึ้น 23.4% GS Shop มองว่าลูกค้าที่เข้าร่วม Live Talk เป็นลูกค้าประจำของรายการ และเนื่องจากลูกค้าเหล่านี้ตั้งใจรับชมรายการโดยเฉพาะ จึงเชื่อว่าการเปลี่ยนเวลาออกอากาศส่งผลให้จำนวนลูกค้าประจำของรายการเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ GS Shop ยังเพิ่มจำนวนสินค้าที่นำเสนอในรายการด้วย ในอดีต รายการ 1 ชั่วโมงจะเน้นการขายสินค้าประมาณ 12 รายการ แต่ตอนนี้ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยเฉพาะในรายการแฟชั่น จะนำเสนอสินค้าในรูปแบบ ‘ร้านค้าออนไลน์’ โดยแนะนำสินค้า 67 รายการ รายการละ 20-30 นาที เพื่อลดความน่าเบื่อ เพิ่มความหลากหลาย และสร้างความสนุกสนาน ตัวอย่างเช่น ในรายการวันที่ 6 กรกฎาคม ได้แนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องกันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 150 นาที เช่น ‘ชุดเซ็ตร้าน Lafle’, ‘กางเกงขาสั้นยีนส์ Buckaroo’, ‘เสื้อยืด Atelier Majoli’, ‘รองเท้าบูทกันฝน Bensimon’, ‘แว่นกันแดด Supportlight Leto’ เป็นต้น
รายการ ‘쇼미 더 트렌드 (Show Me The Trend)’ ของ GS Shop กำลังนำเสนอเสื้อยืด กางเกง และรองเท้าบูทกันฝนของแบรนด์ Bensimon พร้อมกัน
ด้วยการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ทำให้จำนวนสินค้าที่นำเสนอในรายการ ‘Show Me The Trend’ ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 15.2 รายการ เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับ 11.6 รายการในไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้ว การเพิ่มจำนวนสินค้าที่ขายต่อชั่วโมงส่งผลให้จำนวนลูกค้าที่ซื้อสินค้า 2 รายการขึ้นไปและยอดขายเพิ่มขึ้นเช่นกัน ในไตรมาสที่ 2 สัดส่วนลูกค้าที่ซื้อสินค้า 2 รายการขึ้นไปในรายการ ‘Show Me The Trend’ อยู่ที่ 17.5% เพิ่มขึ้น 7.3% เมื่อเทียบกับ 10.2% ในไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้ว และยอดขายในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อี กีจิน ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตรายการแฟชั่นของ GS Shop กล่าวว่า “การออกอากาศทีวีโฮมช้อปปิ้งสามารถรับชมได้ผ่านทั้งทีวีและแอปพลิเคชันบนมือถือ รวมถึงช่องทางโซเชียลมีเดียอย่าง YouTube ในรูปแบบวิดีโอสั้นๆ ทำให้มีจุดเชื่อมต่อเพิ่มขึ้นในแง่มุมของคอนเทนต์” และเสริมว่า “หากรายการโฮมช้อปปิ้งกลายเป็นคอนเทนต์ที่ผู้คนอยากดู การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของสื่อก็อาจเป็นโอกาสได้” กลยุทธ์ใหม่ของ GS Shop นี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพใหม่ของทีวีโฮมช้อปปิ้ง และคาดว่าจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในอนาคต
เว็บไซต์: http://www.gsretail.com
※ บทความนี้รวบรวมและเรียบเรียงจากเอกสารเผยแพร่ของบริษัทให้มีความอ่านง่ายขึ้น
ความคิดเห็น0